1. ผู้เข้าอบรมจะได้รับความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับ โครงสร้างของเส้นผม และปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับเส้นผม เช่น ผมหงอก ผมแห้งเสีย ผมชี้ฟู ผมแตกปลาย รวมถึงวิธีการดูแลและการป้องกันเส้นผมจากปัญหาดังกล่าว เนื้อหานี้จะเป็นพื้นฐานในการพัฒนาและเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ปกปิดผมและผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมได้อย่างเหมาะสม
2. ผู้เข้าอบรมเข้าใจถึงคุณสมบัติ ลักษณะ การละลาย ปริมาณการใช้ และวิธีการเก็บรักษาของ วัตถุดิบที่ใช้ในการทำผลิตภัณฑ์ปกปิดเส้นผม โดยจะครอบคลุมถึงการเรียนรู้ว่าวัตถุดิบแต่ละชนิดมีบทบาทอย่างไรในการผลิตผลิตภัณฑ์ และวิธีการจัดการวัตถุดิบเหล่านั้นให้มีประสิทธิภาพและปลอดภัย

3. ผู้เข้าอบรมเข้าใจขั้นตอนในการทำผลิตภัณฑ์ตั้งแต่การตั้งสูตร การปรับสูตร และการพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ รวมถึงสามารถนำผลิตภัณฑ์ที่ผลิตมาใช้ประโยชน์ได้จริงและนำไปจำหน่ายในตลาดได้

4. ผู้เข้าอบรมเข้าใจวิธีการใช้ อุปกรณ์ในห้องปฏิบัติการ และสามารถ ประยุกต์ใช้อุปกรณ์ทั่วไป ที่สามารถใช้ในการผลิตเครื่องสำอางได้ โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนในอุปกรณ์ราคาแพง ซึ่งในกระบวนการผลิตเครื่องสำอางดังกล่าวนี้ โดยที่สามารถให้ผลลัพธ์ที่มีคุณภาพและปลอดภัยตามกฎหมายกำหนด

5. ผู้เข้าอบรมได้ปฏิบัติการทำผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ที่มีคุณภาพและสามารถนำไปใช้งานและจำหน่ายได้จริง โดยการสอนจะเน้นที่ การลงมือปฏิบัติ ซึ่งจะช่วยให้ผู้เรียนสามารถเข้าใจขั้นตอนต่าง ๆ ในการทำผลิตภัณฑ์ปกปิดเส้นผม อย่างมีประสิทธิภาพ โดยหลักสูตรนี้จะครอบคลุม 6 สูตรผลิตภัณฑ์ ดังนี้:

5.1 แชมพูย้อมผมกึ่งถาวร (Semi-Permanent Hair Color Shampoo)
เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้เพื่อการปกปิดผมขาว โดยมีลักษณะเป็นแชมพูเนื้อเหลวที่ใช้งานง่าย ช่วยให้สีผมดูสม่ำเสมอและเป็นธรรมชาติ ผลิตภัณฑ์นี้เน้นการให้สีที่คงทนนานแต่ไม่ถาวร ซึ่งจะค่อยๆ เลือนหายไปหลังจากการสระผมหลายครั้ง โดยสารชำระล้างที่ใส่อ่อนโยนต่อหนังศีรษะ ไม่ก่อให้เกิดการแพ้การระคายเคือง และใส่สารสกัดจากสมุนไพรไทยที่มีคุณสมบัติเกี่ยวกับเส้นผมเพื่อบำรุงเส้นผม ทำให้เส้นผมไม่แห้งเสีย ช่วยให้ผมดำขึ้น มีน้ำหนัก สามารถปรับเปลี่ยนสีเคลือบ เพื่อให้แชมพูได้สีที่หลากหลายเพิ่มมากขึ้น และไม่ทำลายเส้นผมและหนังศีรษะ
5.2 ครีมนวดย้อมผมกึ่งถาวร (Semi-Permanent Hair Color Conditioner)
เป็นผลิตภัณฑ์ที่มี เนื้อครีมเนียนละเอียด ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อใช้หลังการสระผมด้วยแชมพูย้อมผมกึ่งถาวร ครีมนวดนี้จะช่วย บำรุงเส้นผม พร้อมทั้ง ปรับสภาพผมให้มีความนุ่มลื่น และมี น้ำหนัก ที่ช่วยทำให้เส้นผมดูดีขึ้นหลังจากการย้อม สีที่ได้จะยืดอายุการปกปิดผมขาวให้ทนนานขึ้น โดยไม่ทำให้ผมแห้งเสียหรือแตกปลาย
5.3 สติ๊กปิดผมหงอก (Hair Coloring Stick)
เป็นผลิตภัณฑ์ที่มี เนื้อบาล์มเกลี่ยง่าย ใช้เพื่อ ปกปิดผมหงอก หรือ ผมบาง โดยเฉพาะ ใช้งานสะดวกและรวดเร็ว ช่วยให้ผมดูเป็นธรรมชาติและดูดีขึ้นในทันทีเมื่อทา เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผมหงอกที่ต้องการการปกปิดที่รวดเร็วและไม่ต้องการใช้วิธีการย้อมผมถาวร โดยสติ๊กนี้ช่วยปกปิดได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ทำให้ผมมันหรือเกิดการระคายเคือง
5.4มาสคาร่าปิดผมขาว (Hair Mascara)
เป็นผลิตภัณฑ์ใช้เพื่อ ปกปิดผมหงอก หรือ ผมขาว บริเวณรากผมได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ มาสคาร่ามี เนื้อเกลี่ยง่าย ไม่เหนอะหนะ ช่วยให้ผมดูเรียงเส้นสวยและดูเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมี สารสกัดจากสมุนไพรไทย ที่ช่วยบำรุงเส้นผมไปในตัว เป็นสูตรกันน้ำ ที่ทำให้มาสคาร่าติดทนนานทั้งวัน โดยไม่ไหลเป็นคราบ ซึ่งสามารถล้างออกได้ง่ายด้วยแชมพู
5.5 แป้งปิดผมขาว (Hair Powder Concealer)
เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะเป็น ผงแป้งเนื้อเนียนละเอียด และ นุ่มลื่น ใช้เพื่อ ปกปิดผมขาว หรือผมบางในพื้นที่ต่าง ๆ ของเส้นผม เช่น รากผมหรือแนวผม แป้งนี้จะช่วยให้เส้นผมดูหนาขึ้นและดูเป็นธรรมชาติ ไม่ทำให้ผมมันหรือติดกันเป็นก้อน นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติในการ บำรุงเส้นผม ให้ผมนุ่มลื่น พร้อมกลิ่นหอมที่สดชื่น และยังช่วยเพิ่มวอลลุ่มให้กับเส้นผม ดูหนาขึ้น
5.6 สเปรย์ปิดผมขาว (Hair Root Touch-Up Spray)
เป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วย ปกปิดผมขาว หรือ รากผมขาว มีคุณสมบัติช่วยปกปิดผมขาวแบบชั่วคราว ให้ผลลัพธ์ทันที ช่วยให้สีผมดูเป็นธรรมชาติและสม่ำเสมอ ติดทนนาน โดยไม่เลอะระหว่างวัน สามารถล้างออกได้ง่ายด้วยแชมพูสระผม

6. ผู้เข้าอบรมจะได้เรียนรู้และเข้าใจถึง วิธีการทดสอบความคงตัวของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง หลังจากการผลิต ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญในการรับประกัน คุณภาพ และ ความปลอดภัย ของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง โดยการตรวจสอบคุณสมบัติที่สำคัญ เช่น สี, กลิ่น, การซึม, การเกลี่ย, เนื้อสัมผัส และการ ตรวจวัดค่า pH รวมถึงการ ปรับค่า pH ให้เหมาะสม เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มีความปลอดภัยและเหมาะสมกับการใช้งานบน เส้นผม และ หนังศีรษะ

7. ผู้เข้าอบรมได้รับ สูตรเครื่องสำอางพร้อมวิธีการทำ ที่เข้าใจง่าย พร้อมทั้งวิธีการ ปรับสูตร เพื่อให้สามารถประยุกต์ใช้ในการผลิตเครื่องสำอางได้จริง นอกจากนี้ยังมีการสอนเกี่ยวกับ การคำนวณต้นทุน เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถนำไปใช้ในการ ทำธุรกิจด้านเครื่องสำอาง ได้ทันที แนะนำวิธีการคำนวณต้นทุน เมื่อเทียบเป็นกิโลกรัม และวิธีเพิ่ม/ลดต้นทุนสูตร

8. ผู้เข้าอบรมจะได้รับความรู้เกี่ยวกับ การติดต่อสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อขอ สถานที่ผลิตเครื่องสำอาง (โรงงานเครื่องสำอาง) และ ขั้นตอนการขอเลขที่ใบรับจดแจ้ง (เลข อย. เครื่องสำอาง) เพื่อให้สามารถผลิตและจำหน่ายเครื่องสำอางได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยจะมีการสอนขั้นตอนการ เตรียมเอกสาร และ ขั้นตอนการขออนุญาต

9. ผู้เข้าอบรมจะได้รับการแนะนำ ให้รู้จักผู้เชี่ยวชาญด้านการทำระบบมาตรฐาน ในโรงงานเครื่องสำอาง เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถเข้าใจและปฏิบัติตามมาตรฐานเหล่านี้ได้อย่างถูกต้อง

10. ผู้เข้าอบรมจะได้รับการแนะนำ ให้รู้จักที่ปรึกษาด้านการตลาด การสร้างแบรนด์ และ Digital Marketing โดยที่ปรึกษาที่มีประสบการณ์ในแต่ละด้านจะช่วยให้ผู้เข้าอบรมสามารถเข้าใจถึงกระบวนการและกลยุทธ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในการสร้างแบรนด์เครื่องสำอางและขยายตลาดผ่านช่องทางดิจิทัล

11. ผู้เข้าอบรมจะได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับ แหล่งซื้อวัตถุดิบ, บรรจุภัณฑ์, เครื่องมือ, และ อุปกรณ์ ที่ใช้ในการทำผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถเริ่มต้นการผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางได้อย่างมืออาชีพ โดยสามารถเลือกแหล่งจัดหาที่มีคุณภาพ